วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562

รับเงินสนับสนุนทางด้านการตลาด >ในฐานะที่เป็นผู้ทำการตลาดให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสินค้า

Inbox: พฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 13:23 น.
คุณ Lekbows Sup
รบกวนถามอาจารย์ ค่ะ .. ต่อ ถ้าเรารับเงินสนับสนุนทางด้านการตลาด >ในฐานะที่เป็นผู้ทำการตลาดให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสินค้า เราก็ยังคงใช้หลักเกณฑ์เดิมใช้ไม่ค่ะ ..ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ อาจารย์🙏🏻🙏

สุเทพ พงษ์พิทักษ์ 
วิสัชนา:
กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับกรณี ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีค่าส่งเสริมการขาย ตามหนังสือตอบข้อหารือเลขที่ กค 0702/4699 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2551 ดังนี้
...."หากผู้ขายหรือผู้ผลิตสินค้าจ่ายเงินให้แก่บริษัทฯ เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายใน ด้านการตลาด ค่าโฆษณา หรือส่งเสริมการขายโดยใช้เป็นค่าใช้จ่ายในด้านการจัดทำสื่อ สิ่งพิมพ์ โบว์ชัวร์ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าของผู้ขายหรือผู้ผลิตสินค้า นั้น เงินสนับสนุนที่บริษัทฯ ได้รับดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นค่าตอบแทนการโฆษณา บริษัทฯ จึงต้อง นำไปรวมเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร โดยผู้ขายหรือผู้ผลิตสินค้าที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินได้มี หน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งในอัตราร้อยละ 2.0 ตามข้อ 10 ของคำสั่ง กรมสรรพากรที่ ท.ป.4/2528ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 และเนื่องจากค่าตอบแทนที่บริษัทฯ ได้รับ นั้น เข้าลักษณะเป็นรายรับจากการให้บริการ บริษัทฯ จึงต้องนำรายรับ ดังกล่าวมารวมเป็นฐานในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ ตามมาตรา 77/1 (10) และ มาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร โดยภาษีซื้อที่เกิดจากค่าใช้จ่ายในการให้บริการนั้น ถือเป็นภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ มีสิทธิขอคืนภาษีซื้อดังกล่าวได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 82/5 แห่งประมวลรัษฎากร"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น