บริษัทฯ เป็นคลินิกความงาม และมีใบอนุญาติ (ไม่ต้องมีสระอิ) สถานพยาบาล ไม่ต้องเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม

Inbox: ศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 13:10 น.
คุณ Naamcha Phi
เรียน อาจารย์สุเทพ
ขออนุญาติ (ไม่ต้องมีสระอิ) สอบถามปัญหาดังนี้ค่ะ
1. กรณีภาษีเงินเดือนที่ต้องมีการหัก และนำส่งประจำเดือน กรณีพนักงานไม่ยินยอมให้หักสามารถทำได้หรือไม่ค่ะ
2. กรณีพนักงานโอนย้ายข้ามนิติบุคคล แต่กรรมการและ ผู้บริหารเป็นชุดเดียวกัน มีแนวทางการการทำงานอย่างไร ได้บ้างค่ะ ต้องลาออกจากที่เดิม เพื่อเริ่มงานที่ใหม่ หรือ สามารถนับอายุงานต่อเนื่องได้ค่ะ ขอคำแนะนำแนวทางที่สามารถปฏิบัติได้และไม่ผิดกฎหมายด้วยค่ะ
3. กรณีเงินช่วยเหลือพนักงาน เช่น งานบวช กระเช้าเยี่ยมพนักงาน ค่างานศพ ทั้งของพพนักงานและ ญาติ ค่าการศึกษาของลูกกรรมการ สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทฯ ได้หรือไม่ค่ะ ถ้าเรามีในคู่มือพนักงาน หรือ เราต้องปฏิบัติอย่างไรค่ะ
4. กรณีบริษัทฯ เป็นคลินิกความงาม และมีใบอนุญาติ (ไม่ต้องมีสระอิ) สถานพยาบาล ต้องเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ไหมค่ะ และถ้าเข้าไปแล้ว ทางกรมสรรพากร จะแจ้งเรื่องการข้าระบบภาษีมูลเพิ่ม ยกเลิกอัตโนมัติ เหมือ่นระบบการขนส่งสินค้าที่ยกเว้นไม่ต้องเขาระบบภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่่ค่ะ
- ขอบคุณมากค่ะ

สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วิสัชนา:
1. กรณีภาษีเงินเดือนที่ต้องมีการหัก และนำส่งประจำเดือน แม้พนักงานไม่ยินยอมให้หัก บริษัทฯ ก็ยังคงมีหน้าที่ต้องนำส่งภาษีหัก ณ ทีจ่าย ตามมาตรา 52 แห่งประมวลรัษำากร แต่ในความเป็นจริง พนักงานไม่สามารถฝ่าฝืนกฎหมายได้ ่ะ
2. กรณีพนักงานโอนย้ายข้ามนิติบุคคล แต่กรรมการ และผู้บริหารเป็นชุดเดียวกัน โดยหลักต้องลาออกจากที่เดิม เพื่อเริ่มงานที่ใหม่ แต่ควรมีระเบียนให้สามารถนับอายุงานของพนักต่อเนื่องได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อลูกจ้าง และเป็นขวัญกำลังใจของลูกจ้างพนักงาน
3. กรณีเงินช่วยเหลือพนักงาน เช่น งานบวช กระเช้าเยี่ยมพนักงาน ค่างานศพ ทั้งของพพนักงานและ ญาติ ค่าการศึกษาของลูกกรรมการ สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทฯ ได้ ถ้าบริษัทฯ มีในคู่มือพนักงาน แต่ในทางปฏิบัติต้องถือเป็นเงินได้พึงประเมินของพนักงานและกรรมการ
4. กรณีบริษัทฯ เป็นคลินิกความงาม และมีใบอนุญาติ (ไม่ต้องมีสระอิ) สถานพยาบาล ไม่ต้องเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม และถ้าเข้าไปแล้ว ทางบริษัทฯ ต้องจดแจ้วการยกเลิกต่อเจ้าพนักงานสรรพากรเอง